ของแต่งบ้านวินเทจ

ของแต่งบ้านวินเทจ บ้านวินเทจ การตกแต่งบ้านสไตล์ย้อนยุค ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน หลายคนชื่นชอบ การแต่งบ้านสไตล์นี้ แต่อาจจะคิดว่าการตกแต่ง บ้านวินเทจนั้นเหมาะกับบ้านมือสอง หรือคิดว่าต้องใช้งบประมาณ ในการตกแต่งมาก

ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงทุนมาก มาดูคำแนะนำใน การตกแต่งบ้านวินเทจ ราคาถูก สามารถนำไปใช้กับการตกแต่งบ้านใหม่ หรือบ้านมือสองกันได้เลย

โดยการแต่งบ้านสไตล์วินเทจ คือ การจัดพื้นที่ใช้สอย แบบในยุคเก่าพร้อมกับนำ ของเก่าที่ย้อนหลังอย่างน้อย 20 ปี โดยไม่เกินปี ค.ศ. 1920 มาประดับตกแต่งบ้านเพื่อสร้าง บรรยากาศอบอุ่นและคลาสสิก นับเป็นศิลปะที่แสดงคุณค่า และความงดงามเหนือกาลเวลา

ของแต่งบ้านวินเทจ

แต่งบ้านวินเทจ

1.เฟอร์นิเจอร์ไม้เก่า
สิ่งที่คนมักจะนึกถึง ในการแต่งบ้านวินเทจนั่น ก็คือการมีเฟอร์นิเจอร์ไม้เก่าหรือสีถลอก แต่การจะได้สิ่งนี้มานั้นมีสองวิธี คือหาซื้อตามร้านขาย ของเก่าหรือของวินเทจ ซึ่งอาจมีไม่มากนัก แต่ถ้าเจอก็จะได้ของที่วินเทจจริง ๆ

โดยเฉพาะรูปลักษณ์ ภายนอกที่มีลาย และลูกเล่นมากมาย ทางเลือกที่สองคือ “ทำเอง” โดยอาจจะหาโต๊ะหรือบานหน้าต่างไม้มาทาสีแล้วขูด ๆ ให้เป็นรอยถลอกเหมือนผ่าน กาลเวลามานาน เท่านี้ก็วินเทจได้แล้ว

2.สีพาลเทล
ข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อนคงหลีกเลี่ยง ไม่ได้ว่าต้องเป็นสีโทนพาสเทล โดยเฉพาะสีขาว ฟ้า เขียว ที่มักเป็นที่นิยมในสมัยนั้น ๆ ดังนั้นการแต่งบ้านวินเทจ ก็คงจะต้องเน้นสีโทน เหล่านี้เยอะหน่อย เพื่อให้เข้ากับคอนเซ็ปต์มากที่สุด

3.กรอบรูป/ โปสเตอร์
กรอบรูปและโปสเตอร์เป็นสิ่ง ที่บ่งบอกความวินเทจได้ชัดที่สุด ยิ่งเป็นรูปบุคคล นักร้อง/ ศิลปินในสมัยนั้น ๆ ยิ่งให้ความคลาสสิก แถมสีที่จืดจางลง ไปก็ยิ่งทำให้ การแต่งบ้านสไตล์วินเทจ สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอีกด้วย ที่สำคัญคือปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของเรา จะเป็นรูปจากกล้องฟิล์ม โพลารอยด์ หรือเป็นโปสเตอร์การ์ตูน หนัง ภาพวาดลายเส้นเก่า ๆ ก็ได้

ของแต่งบ้านวินเทจ

4.หนังสือเก่า
ความรู้บางอย่างยังเก็บมาใช้ได้ถึงทุกวันนี้ ลองหาหนังสือเก่าปกสวย ๆ มาเก็บไว้ก็ถือว่าเป็น การแต่งบ้านวินเทจไปอีกแบบ บางคนเป็นนักสะสมหนังสือ ก็อาจทำเป็นชั้นวางได้เลย แนะนำว่าเป็นหนังสือต่างประเทศเล่มหนา ๆ กระดาษสีน้ำตาล มีร่องรอยถลอก หรือขาดหน่อย ๆ มาวาง จะได้ความวินเทจมากขึ้น

5.ชั้นวางของสะสม
แต่ละคนย่อมมีของสะสม ที่แตกต่างกันไป ลองจัดให้มุมหนึ่งของบ้าน เป็นชั้นวางของสะสมดู เชื่อว่าให้ความวินเทจได้ไม่น้อยเลย แถมเมื่อไรที่เดินผ่านมาเจอ เราก็จะได้เห็นด้วยว่าของแต่ละอย่าง แต่ละรุ่น เป็นเครื่องบ่งบอกเวลาของยุคนั้น ๆ ได้ ตอนนั้นมีอะไรเกิดขึ้นบ้างนะ เปลี่ยนแปลงไปยังไง…ถึงไหนแล้ว

การตกแต่งบ้านให้ดูวินเทจ

6.เครื่องเล่นแผ่นเสียง/ ลำโพง
หากจะ แต่งบ้านวินเทจ เครื่องเล่นแผ่นเสียง และลำโพงยุคเก่าเป็นสิ่งที่จะขาดไปไม่ได้ เพราะนอกจากจะเป็นของตกแต่งแล้ว เสียงที่ออกมาจากเครื่องเล่น ยังทำให้หวนนึกถึงวันวานในอดีต โดยเฉพาะ Marshall ที่มักถูกจับให้คู่กับความวินเทจอยู่เสมอ เปิดฟังทีไร…ก็เหมือนได้ย้อนเวลากลับไปยุค 60, 90 ไม่ว่าเพลงนั้นจะใหม่หรือเก่าก็ตาม แต่เราก็ยังอินกับ ที่มาของเสียงเพลงนั้นอยู่ดี

7.ภาชนะสังกะสี
ภาชนะที่ทำจากสังกะสี เป็นอีกสิ่งหนึ่งในการตกแต่งบ้านให้ดูวินเทจ ถ้าจะมาจัดวางตกแต่ง หรือใส่สิ่งของเฉย ๆ เช่น กระถางต้นไม้ สามารถใช้แบบที่มีสนิมเกาะหน่อย ๆ ได้ ดูเท่ไปอีกแบบ แต่ถ้าจะนำมาประกอบอาหาร หรือใส่ของรับประทานอาจ จะต้องเลือกแบบที่ไม่มีสนิม

แต่งห้องให้วินเทจด้วยโซฟา

ไอเดียเนรมิตห้องนั่งเล่นวินเทจ

1.แต่งห้องให้วินเทจด้วยโซฟาหนังสีเข้มทรงโค้งสวย
สร้างกลิ่นอายความย้อนยุคพร้อมเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้เก๋ไม่เหมือนใคร เพียงหาโซฟาหนังโทนสีน้ำตาลเข้ม ใช้เทคนิคดึงกระดุมตรงเบาะพนักพิงหลัง เสริมขอบทรงโค้งรับกับขาสิงห์ด้านล่าง แถมประดับดอกไม้สีหวานไว้มุมห้อง เติมเต็มห้องนั่งเล่นวินเทจให้หวานเก๋ในสไตล์ Shabby Chic

ถ้าบ้านไหนแต่งผนังโทนสีเข้มในห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจอยู่แล้ว และอยากให้ปรับมู้ดให้ห้องมีความละมุนมากขึ้น ลองหาโซฟาหนังที่มีความโค้งมนตรงส่วนขอบพนักพิง ช่วยสร้างบรรยากาศที่รู้สึกนุ่มนวลกว่าโซฟาทรงเหลี่ยม แถมหนังวัวแท้ยังให้สัมผัสที่สบาย และใช้งานได้ยาวนานด้วย บ้าน 2 ชั้น

2.ใช้โซฟาผ้าสีอ่อนสุดนุ่มสบายสไตล์ Shabby Chic
แต่งห้องนั่งเล่นวินเทจด้วยผนังโทนสีฟ้าอ่อน ให้ความรู้สึกสดใสดูสบายตา พร้อมวางโซฟาทรงตัวแอลหุ้มผ้าสีครีม เข้ากับตู้หนังสือและกรอบหน้าต่างในโทนสีเดียวกัน แถมยังปูพรมผืนใหญ่ลวดลายสไตล์ย้อนยุค แมตช์กับโคมไฟเพดานดีไซน์เก๋ ช่วยย้อนช่วงเวลา ให้บ้านดูชิคและมีสไตล์มากยิ่งขึ้น

3.จัดมุมนั่งเล่นด้วยเก้าอี้อาร์มแชร์ หุ้มผ้าลวดลายสุดเก๋ไก๋
เปลี่ยนห้องสีขาวธรรมดาให้กลาย เป็นห้องนั่งเล่นสวย ๆ วินเทจ ด้วยเก้าอี้อาร์มแชร์เบาะนุ่ม หุ้มด้วยผ้าลินินสีครีมลายดอกไม้สีชมพูสดใส เข้ากับผ้าม่านสีโอลด์โรสเรียบ ๆ และกระถางต้นไม้ลายดอกสุดเก๋ และเสริมให้ได้บรรยากาศสุดแสนอบอุ่น ด้วยการปูพื้นกระเบื้องยางลายไม้สีน้ำตาลอ่อน สร้างมุมสุดหวานไว้นั่งเล่นแบบชิลล์ ๆ

นอกจากลวดลายดอกไม้หวาน ๆ ในสไตล์วินเทจแล้ว ผ้า Polka Dot หรือลายจุดก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมสุดฮิต ที่ช่วยแต่งห้องนั่งเล่นให้เก๋แบบ Shabby Chic ยิ่งใช้กับเก้าอี้อาร์มแชร์หุ้มผ้า Polka Dot สีขาวเทา ลายจุดสีชมพู พร้อมทำโครงไม้และขาสิงห์สีขาว เข้ากับโต๊ะกลางอย่างลงตัว เป็นอีกไอเดียสุดชิคที่เปลี่ยน บรรยากาศให้หวานไม่เหมือนใคร

4.เนรมิตพื้นที่โล่งให้เป็นมุมนั่งเล่นเก๋ ๆ พร้อมชุดโต๊ะกลมแบบวินเทจ
มความหวานใน ห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจ ด้วยการทาผนังโทนสีชมพู เข้ากับผ้าม่านสุดพริ้ว และเสริมดอกไม้สีสดในแจกันสีขาวทรงสูง แมตช์กับชุดโต๊ะกลมสีขาวพร้อมเก้าอี้ ไว้สำหรับการนั่งพักผ่อนยามว่าง และติดชั้นวางของสีขาวแต่งลวดลายตรงขอบ คู่กับจานลายดอกไม้ สร้างห้องให้เก๋ยิ่งขึ้น

ห้องนั่งเล่นวินเทจ

5.วางโต๊ะกลางไม้สีขาวแบบวินเทจเข้ากับชุดรับแขก
เนรมิตห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจ ให้สวยเก๋อย่างสมบูรณ์แบบ เพียงเลือกชุดรับแขกโทนสีครีม เข้ากับผนังและพื้นห้องอย่างลงตัว พร้อมปูพรมขนสั้นผืนใหญ่ในโทนสีเทาอ่อน ปิดท้ายด้วยโต๊ะกาแฟสีนวล ส่วนขาโต๊ะโค้งเป็นทรงขาสิงห์แบบย้อนยุค และปิดท้ายด้วยท็อปไม้สีน้ำตาล ให้ความอบอุ่นแบบสุดชิคไม่เหมือนใคร

6.ยกระดับห้องนั่งเล่นให้เหมือนบ้านตะวันตก ด้วยเตาผิงสีขาวสุดชิค
แต่งผนังสีขาวเรียบ ๆ ด้วยกรอบคิ้วบัวลวดลายเก๋ไก๋ และวางอาร์มแชร์สีขาวครีมไว้นั่งพักผ่อนแบบชิลล์ ๆ เสริมโคมไฟที่แต่งโคมด้วยผ้าสีชมพู ไว้อีกมุมของห้อง พร้อมทำชั้นวางของเป็นทรง เตาผิงแบบตะวันตก ประดับดอกไม้สีชมพูให้ห้องหวานอย่างมีสไตล์ เปลี่ยนบรรยากาศ ในห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจ ให้มีความละมุนในแบบ Shabby Chic

Related Posts